เพื่อน ๆ สามารถนำแนวคิดเรื่อง “ความพอเพียง” และ “ความยั่งยืน” มาปรับใช้ในบริบทของชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนา ที่ประเทศของเรามีความคุ้นเคยอยู่แล้ว นั่นก็คือ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เราสามารถนำมาปรับใช้ ซึ่งมุ่งเน้นในการใช้ทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบ การอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ และการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคน
ประเทศไทยมีปัญหาขยะสิ่งทอเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากคนไทยจำนวนมาก ซื้อเสื้อผ้าราคาถูกที่มักมีอายุการใช้งานสั้น การนำแนวคิดความพอเพียงมาใช้ในด้านนี้ เราสามารถเริ่มจากการสนับสนุนการผลิตและซื้อเสื้อผ้าที่มีคุณภาพสูง สามารถใช้งานได้นาน สนับสนุนความคิดการซ่อมแซมและใช้เสื้อผ้าเดิม หรือแม้กระทั่งสร้างตลาดเสื้อผ้ามือสองให้เติบโต นอกจากนี้ ภาครัฐสามารถออกมาตรการทางภาษีเพื่อกระตุ้นการผลิตเสื้อผ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ประเทศของเราผลิตและบริโภคอาหารในปริมาณมหาศาล และขยะอาหารก็เป็นปัญหาสำคัญ แนวทางการลดการสูญเสียอาหารสามารถเริ่มจากการให้ความรู้ประชาชนเรื่องการบริโภคอย่างพอเพียง ส่งเสริมการเก็บเกี่ยวและการแปรรูปอาหารให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะจากร้านอาหารและโรงแรม นอกจากนี้ สนับสนุนตลาดชุมชนและการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นจะช่วยให้เกิดการพึ่งพาทรัพยากรในชุมชนและลดการขนส่งระยะไกล
ระบบขนส่งในประเทศไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพและปริมณฑล มีปัญหาจากจำนวนรถที่มากเกินไปและการจราจรที่ติดขัด แนวทางความพอเพียงสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้ โดยการส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่เข้าถึงได้และมีประสิทธิภาพ การพัฒนาทางจักรยาน และการส่งเสริมการเดินเท้าในระยะทางสั้น ๆ รวมถึงการปรับผังเมืองให้มีการกระจายศูนย์กลางการทำงานและที่อยู่อาศัยให้อยู่ใกล้กัน ลดการใช้พลังงานในการเดินทางและการปล่อยมลพิษ
แนวคิดความพอเพียงสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาแบบยั่งยืน ขาดเพียงการผลักดันให้เกิดเป็นเทรนด์กระแสหลัก เริ่มจากการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ให้ผู้คนใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า และสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงทรัพยากรสำหรับคนทุกกลุ่ม
ที่มา : https://theconversation.com/enough-already-why-humanity…