หนาวนี้กินอะไรดี? นอกจากของอุ่นๆ คลายหนาว
#เพื่อนชุมชน ก็อยากให้ทุกคนได้กินของดีประจำฤดู เพราะหนึ่งปีจะมีให้กินสักครั้ง หรือบางอย่างมีให้กินตลอดทั้งปี แต่จะอร่อยสุดๆ ก็เฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น
ก่อนลมหนาวจะพัดผ่าน เพื่อไม่ให้พลาดของอร่อย จึงขอนำเสนอ 8 ของดีที่ธรรมชาติมอบให้เราในฤดูหนาวนี้
.


1. #ข้าวใหม่ (นาปี)
‘ข้าวใหม่’ ไม่ใช่พันธุ์ข้าว แต่คือข้าวที่ชาวนาเพิ่งจะเก็บเกี่ยวนำไปสี ช่วงต้นฤดูหนาวไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงเก็บเกี่ยวข้าวใหม่นาปี (ข้าวที่ปลูกและเก็บเกี่ยวตามฤดูกาล) ไม่เพียงกลิ่นหอมยวนใจ เมล็ดข้าวยังนุ่ม มียางหนืด มีความชื้นมากกว่าข้าวนาปรัง (ข้าวที่ปลูกนอกฤดู) จึงนิยมหุงเป็นข้าวต้ม โจ๊ก ยางข้าวหนืดๆ ทำให้สัมผัสละมุนและส่งกลิ่นหอมฉุย

2. #กุ้งแม่น้ำ
กุ้งแม่น้ำมีให้กินตลอดทั้งปี แต่ถ้าจะกินให้อร่อยอย่างคนโบราณเขาว่าไว้ ต้องไม่พลาดกุ้งแม่น้ำช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ เพราะเป็นช่วงที่กุ้งได้รับสารอาหารตามธรรมชาติอย่างเต็มที่ เอาไปเผาไฟ มันกุ้งเยิ้มๆ หอม มัน เนื้อหวานแน่นเด้ง หรือทำต้มยำกุ้งน้ำข้นตามสูตรต้นตำรับที่ไม่ต้องพึ่งนมข้นจืด ก็ได้น้ำต้มยำรสหวานมันกลมกล่อมจากมันกุ้งธรรมชาติ

3. #ปลาลิ้นหมา
คือปลาที่ดันเกิดมามีลักษณะคล้ายลิ้นหมา หาได้เฉพาะช่วงหน้าหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่มันจะว่ายขึ้นมาจากผิวน้ำให้ชาวประมงจับได้ง่าย เห็นหน้าตาประหลาดๆ อย่างนี้ รสชาติไม่ประหลาดนะ เอาไปทอดกระเทียม กรอบอร่อยมาก หรือจะลอกหนังทิ้ง ปรุงรสนิดหน่อย เอาไปจี่ในกระทะก็อร่อยไปอีกแบบ

4. #ดอกแค
‘แค’ คือผักที่ห่วงใยคุณ ด้วยสรรพคุณที่ผู้ใหญ่บอกต่อๆ กันมาว่า ถึงช่วงผลัดฤดูระหว่างปลายฝนเข้าสู่ต้นฤดูหนาว ให้กินแกงส้มดอกแคดักไข้หัวลม (ไข้ที่เกิดขึ้นในช่วงผลัดเปลี่ยนฤดู) เอาไว้ และเป็นช่วงที่ต้นแคทยอยออกดอกอ่อน ดอกแคมีวิตามินซีเยอะ เมื่อรวมพลังกับเครื่องแกงส้มที่อุดมด้วยสมุนไพรหอมระเหยอย่างหัวหอม กระเทียม ฯลฯ จึงช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันต้านไข้หวัด

5. #สะเดา
เป็นผักพื้นบ้านที่หากินได้เมื่อย่างเข้าฤดูหนาว เพราะต้นสะเดาได้ฤกษ์แตกช่อดอกทุกสิ้นปี คือช่วงเดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์ หาซื้อได้ตามตลาดสดทั่วไป สะเดามีรสชาติขมติดมันนิดๆ ใครเคยกินสะเดาสดครั้งแรกคงรู้ซึ้งถึงคำว่าขมติดลิ้น แต่ก็เป็นผักมากประโยชน์ ช่วยป้องกันไข้หัวลมได้เช่นเดียวกับดอกแคคนโบราณจึงจับรสขมของสะเดาให้กินเข้าคู่กับรสหวานของน้ำปลาหวาน แนมปลาย่างหรือกุ้งลวก กุ้งเผา กินด้วยกันได้รสกลมกล่อมลงตัว บางคนติดใจรสชาติสะเดาน้ำปลาหวาน แต่ก็ยังอยากลดระดับความขมลงอีกนิด จึงนำไปลวกก่อนสัก 1-2 ครั้ง ‘สะเดาน้ำปลาหวาน’ จึงกลายเป็นตำรับที่กินกันมานานจนถึงปัจจุบัน

6. #ชมพู่ม่าเหมี่ยว
เป็นผลไม้ที่มีรูปทรงคล้ายแอปเปิล ผลสุกสีแดงเข้ม เนื้อในขาวปุยนุ่มละมุน ใครได้กินเป็นต้องติดใจในความสดชื่นของรสชาติหวานหอมอมเปรี้ยว แต่เชื่อว่าหลายคนอาจยังไม่เคยลอง เพราะเป็นผลไม้ที่มีออกมาไม่เยอะนักเมื่อเทียบกับผลไม้ในฤดูกาลประเภทอื่น สำหรับคนที่ยังไม่เคยลิ้มรส ช่วงนี้หากเห็นชมพู่ม่าเหมี่ยวที่ไหน เชียร์ให้ซื้อมาลองกินกันดูค่ะ

7. #ถั่วลันเตาหวาน
เป็นพืชเมืองหนาว ที่เมืองร้อนๆ อย่างไทยแลนด์ปลูกเองได้ เพียงให้เขาอาศัยอยู่ในที่อากาศหนาวเย็น ถั่วลันเตาเริ่มทยอยออกฝักมาให้ได้กินกันตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม รสชาติถั่วลันเตาหวานนั้นหวานสมชื่อ กินสดๆ หวานกรอบ นำมาผัดหรือลวกกินเป็นผักสลัดก็อร่อย ช่วยบำรุงกระดูกและฟันเพราะเป็นผักที่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสมาก

8. #สตรอว์เบอร์รีพันธุ์พระราชทาน 80
ทุกสิ้นปีเราจะเห็นผลไม้เมืองหนาวอย่างสตรอว์เบอร์รีออกมาให้ได้กินกัน สตรอว์เบอร์รีพันธุ์พระราชทาน 80 เป็นพันธุ์หนึ่งที่แนะนำ ด้วยความพิเศษของพันธุ์ที่แม้ผลจะมีขนาดเล็ก เมื่อเทียบกับสตรอว์เบอร์รีนำเข้าจากต่างประเทศหรือพันธุ์อื่นๆ แต่รสชาติหวานฉ่ำ เนื้อแน่น หอมเป็นพิเศษ และเป็นอีกพันธุ์หนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานไว้ให้เกษตรกรชาวไทย และให้เราได้ลิ้มรสกันทุกฤดูหนาว

ขอบคุณที่มาดีๆ : Krua