มันกลับมาอีกเเล้ว‼️  ทั้ง ฝุ่น ทั้ง ไวรัส

เลือกใช้ “หน้ากากอนามัย” แบบไหนดี? เมื่อโรคระบาด “โควิด-19” กำลังกลับมา แถม “PM 2.5” ก็กำลังตามมาติดๆ
แบบนี้ควรดูแลตัวเองเพิ่มเติมอย่างไรดี โดยเฉพาะการเลือกซื้อ “หน้ากากอนามัย” ควรเลือกซื้อชนิดไหน? เพื่อให้สามารถป้องกันได้ทั้งเชื้อไวรัสและฝุ่นพิษไปพร้อมกัน
เพื่อนชุมชนจะพาไปรู้จักหน้ากากอนามัย 3 ประเภท ที่เราเจอกันตามท้องตลาดบ่อยๆ

1. หน้ากาก N95 : สามารถป้องกันเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ สารคัดหลั่ง กรองกลิ่น กันฝุ่น PM 2.5 ได้
ผลิตจากพอลิโพรพิลีน ป้องกันการเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมากๆ ได้ มีประสิทธิภาพสูงกว่าหน้ากากอนามัยทั่วไป ลักษณะของ N95 จะครอบลงไปที่ปากและจมูกอย่างมิดชิด จึงทําให้เชื้อไวรัสไม่สามารถลอดผ่านได้ อีกทั้งมีประสิทธิภาพในการดักจับอนุภาคขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 และ PM 10 ได้ไม่น้อยกว่า 95% (ป้องกัน PM 2.5 ในระดับดีมาก)

2. หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ : สามารถป้องกันเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ สารคัดหลั่งจากผู้อื่น

ผลิตจากพลาสติกพอลิโพรพิลีนที่มีความปลอดภัย ป้องกันเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสจากคนสู่คนได้ถึง 99% ป้องกันฝุ่นละออง และเกสรดอกไม้ ขนาดเล็ก 3 ไมครอน ได้ถึง 66.37% (ป้องกัน PM 2.5 ไม่ได้)

3. หน้ากากผ้า : สามารถป้องกันเชื้อแบคทีเรีย ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ละอองน้ำมูก/น้ำลายขนาดใหญ่

หน้ากากผ้า มี 2 แบบ แบบแรกผลิตจากผ้าฝ้าย แบบที่สองผลิตจากใยสังเคราะห์ซ้อนกัน ทั้งสองแบบใช้สําหรับป้องกันฝุ่นละออง และป้องกันน้ำมูกหรือน้ําลายจากการ ไอ/จามได้ กรองฝุ่นละอองอนุภาคใหญ่ได้ แต่ไม่สามารถกรองเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมากๆ ได้ (ป้องกัน PM 2.5 และไวรัสไม่ได้)

ขอบคุณที่มา เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ